06.08.2025

ชนแล้วหนี โทษหนักแค่ไหน ? รู้ไว้ก่อนขับรถพลาด

ชนแล้วหนีผิดไหม โดนอะไรบ้าง ? พร้อมวิธีแจ้งความและตามคู่กรณี

อุบัติเหตุบนท้องถนนเกิดขึ้นได้เสมอ ไม่ว่าจะระมัดระวังแค่ไหน แต่สิ่งที่ร้ายแรงยิ่งกว่าการชน คือการ “ชนแล้วหนี” ซึ่งไม่เพียงทิ้งความเสียหายให้กับคู่กรณี แต่ยังส่งผลรุนแรงทั้งทางกฎหมายและจิตใจของผู้ที่ต้องเจอกับเหตุการณ์ 

 

หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า การชนแล้วหนีมีบทลงโทษเป็นอย่างไร และการไกล่เกลี่ยจะสามารถทำได้หรือไม่ รวมถึงในกรณีนี้ประกันจะยังจ่ายอยู่หรือเปล่า การเข้าใจเรื่องเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ที่ใช้รถใช้ถนนทุกคน เพื่อไม่ให้เผลอก้าวพลาดในวินาทีสำคัญ และสามารถรับมือได้อย่างถูกต้องหากต้องเผชิญกับเหตุไม่คาดฝัน

 

ชนแล้วหนี คืออะไร และโทษตามกฎหมายเป็นอย่างไร ?

การ “ชนแล้วหนี” หมายถึง การที่ผู้ขับขี่ชนรถ หรือทรัพย์สินของผู้อื่น แล้วหลบหนีไปโดยไม่จอดให้ความช่วยเหลือ ไม่แจ้งตำรวจ หรือไม่แสดงความรับผิดชอบตามกฎหมาย ถือเป็นความผิดที่เข้าข่ายละเมิดทั้งกฎหมายจราจรและกฎหมายอาญา

 

โทษตามกฎหมายสำหรับกรณีชนแล้วหนี

  • โทษตามกฎหมายจราจร : จำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และถูกเพิกถอนหรือพักใช้ใบอนุญาตขับขี่
  • กรณีไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต : จำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับตั้งแต่ 2,000 ถึง 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
  • กรณีมีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต : จำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับตั้งแต่ 5,000 ถึง 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

 

เมื่อเจอเหตุการณ์ชนแล้วหนี มีวิธีแจ้งความอย่างไร ?

หากคุณตกเป็นผู้เสียหายจากอุบัติเหตุชนแล้วหนี การตั้งสติและดำเนินการตามขั้นตอนที่ถูกต้องจะช่วยเพิ่มโอกาสในการติดตามตัวผู้กระทำผิดได้มากขึ้น ดังนี้

 

1. ตั้งสติและประเมินสถานการณ์ : ตรวจสอบว่ามีผู้บาดเจ็บหรือไม่ หากมีให้รีบโทรแจ้ง 1669 เพื่อขอความช่วยเหลือจากหน่วยแพทย์ฉุกเฉินทันที
2. เก็บหลักฐานให้มากที่สุด : พยายามจดจำรายละเอียดรถของคู่กรณีให้ได้มากที่สุด เช่น ยี่ห้อ รุ่น สี หมายเลขทะเบียนรถ (ถ้าเป็นไปได้) ทิศทางที่หลบหนี และลักษณะของผู้ขับขี่ พร้อมกับถ่ายภาพความเสียหายของรถคุณและสภาพแวดล้อมโดยรอบ หากมีกล้องหน้ารถ ให้ตรวจสอบและบันทึกภาพไว้ หรือสอบถามหาพยานในที่เกิดเหตุ
3. ติดต่อบริษัทประกันภัยทันที : แจ้งเหตุให้บริษัทประกันภัยทราบโดยเร็วที่สุด เพื่อขอคำแนะนำและดำเนินการตามขั้นตอนการเคลม
4. เข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจท้องที่ : นำหลักฐานทั้งหมดที่รวบรวมได้ไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ณ สถานีตำรวจที่ใกล้ที่สุด หรือสถานีตำรวจในพื้นที่ที่เกิดเหตุ การแจ้งความโดยเร็วจะช่วยให้เจ้าหน้าที่สามารถติดตามหาผู้กระทำผิดได้ง่ายขึ้น
5. ติดตามความคืบหน้ากับเจ้าหน้าที่ตำรวจและบริษัทประกันภัย : หมั่นสอบถามความคืบหน้าของคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และประสานงานกับบริษัทประกันภัยอย่างใกล้ชิด

 

ชนแล้วหนี สามารถไกล่เกลี่ยได้หรือไม่ ?

กรณี "ชนแล้วหนี" แม้จะเป็นความผิดทางอาญา แต่หากสามารถติดตามตัวผู้กระทำผิดได้ และคู่กรณียินดีเจรจา อาจเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยได้ในบางกรณี โดยเฉพาะหากความเสียหายไม่ร้ายแรง และไม่มีผู้บาดเจ็บสาหัสหรือเสียชีวิต

 

ขั้นตอนการไกล่เกลี่ย

1. ติดตามตัวผู้กระทำผิด : เจ้าหน้าที่ตำรวจจะใช้หลักฐานจากผู้เสียหาย เช่น ภาพจากกล้องหน้ารถ หรือข้อมูลทะเบียน เพื่อติดตามตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินการตามขั้นตอน
2. แจ้งความและเข้าสู่กระบวนการสอบสวน : เมื่อสามารถระบุตัวผู้กระทำผิดได้แล้ว จะมีการแจ้งข้อกล่าวหาและสอบปากคำที่สถานีตำรวจ เพื่อดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมาย
3. เจรจาไกล่เกลี่ยโดยมีตำรวจเป็นพยาน : หากผู้กระทำผิดยอมรับผิดและแสดงความรับผิดชอบ อาจมีการเจรจาไกล่เกลี่ยเรื่องค่าเสียหาย ณ สถานีตำรวจ โดยมีเจ้าหน้าที่เป็นคนกลาง ช่วยควบคุมความเป็นธรรมให้ทั้งสองฝ่าย
4. พิจารณาความรุนแรงของอุบัติเหตุ : ในกรณีที่ไม่มีผู้บาดเจ็บสาหัสหรือเสียชีวิต และคู่กรณียินยอมชดใช้ค่าเสียหาย ผู้เสียหายสามารถพิจารณาถอนแจ้งความในส่วนของคดีอาญาได้ (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่)
5. กรณีไม่ยอมรับผิดหรือไม่ยอมชดใช้ : หากผู้กระทำผิดไม่ยอมรับผิด หรือไม่ยอมชดใช้ค่าเสียหายตามที่ตกลงกัน ผู้เสียหายสามารถดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปได้ทั้งทางแพ่งและอาญา โดยศาลจะเป็นผู้ตัดสิน

 

ชนแล้วหนี ประกันจ่ายไหม ?

ความคุ้มครองจากประกันภัยกรณีชนแล้วหนี ขึ้นอยู่กับประเภทของประกันที่คุณถืออยู่ และสถานะของคุณว่าเป็นผู้เสียหายหรือผู้กระทำผิด

 

กรณีคุณเป็นผู้เสียหาย

  • หากมีประกันภัยชั้น 1 หรือมีความคุ้มครองกรณีไม่มีคู่กรณี บริษัทประกันภัยจะรับผิดชอบค่าซ่อมรถ (อาจต้องจ่ายค่า Excess ตามกรมธรรม์)
  • หากมีประกันชั้นอื่น เช่น ชั้น 2+ หรือ 3+ ความคุ้มครองจะจำกัดมากขึ้นและบางครั้งอาจไม่ครอบคลุมกรณีไม่มีคู่กรณีชัดเจน
  • หากจำทะเบียนไม่ได้ จำเป็นต้องรอผลการสืบสวนของตำรวจเพื่อยืนยันสิทธิในการเรียกร้องค่าเสียหาย

 

กรณีคุณเป็นผู้กระทำผิด

หากมีประกันภัย บางบริษัทอาจปฏิเสธความคุ้มครองหากคุณ "หลบหนี" หลังเกิดเหตุ ถือว่า “ฝ่าฝืนเงื่อนไขกรมธรรม์”

 

ดังนั้น การมีประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 จึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดเพื่อความสบายใจเมื่อต้องเผชิญกับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน

 

ชนแล้วหนี จำทะเบียนได้/ไม่ได้ ต้องตามยังไง ?

การจำทะเบียนรถของคู่กรณีได้หรือไม่ เป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้การติดตามตัวผู้กระทำผิดทำได้ง่ายขึ้น

 

กรณีจำทะเบียนรถได้

สามารถนำข้อมูลทะเบียนรถคู่กรณี เช่น ยี่ห้อ สี ไปตรวจสอบเจ้าของรถที่กรมการขนส่งทางบก จากนั้นให้นำข้อมูลที่ได้ไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อออกหมายเรียกตัวผู้กระทำผิดมารับทราบข้อกล่าวหาและดำเนินการตามกฎหมาย

 

กรณีจำทะเบียนรถไม่ได้

ให้รีบเก็บหลักฐานภาพถ่ายหรือวิดีโอจากกล้องหน้ารถ กล้องวงจรปิดในพื้นที่ แจ้งความที่สถานีตำรวจพร้อมติดต่อบริษัทประกันภัย (ถ้ามี) เพื่อดำเนินการเคลม และให้บริษัทประกันภัยช่วยติดตามตัวผู้กระทำผิดต่อไป

 

 

พฤติกรรมชนแล้วหนีไม่เพียงเป็นความผิดทางกฎหมาย แต่ยังสะท้อนถึงความรับผิดชอบในฐานะพลเมืองที่ดี การมีสติเมื่อเกิดเหตุ การเลือกเคลียร์ปัญหาอย่างตรงไปตรงมา และไม่ทิ้งคู่กรณีไว้ลำพัง เป็นสิ่งที่ผู้ขับขี่ทุกคนควรตระหนัก

 

และสำหรับใครที่กำลังมองหารถยนต์มือสองที่มีคุณภาพ เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ Autovilla พร้อมเป็นทางเลือกที่ไว้ใจได้ เราเป็นแหล่งรวมรถยนต์มือสอง ราคาถูก สภาพดี ที่ผ่านการตรวจเช็กกว่า 344 จุดโดย Goo Inspection สถาบันรับรองจากประเทศญี่ปุ่น ไม่มีประวัติชนหนักหรือน้ำท่วม พร้อมช่วยจัดหาไฟแนนซ์ด้านสินเชื่อรถยนต์เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าทุกท่าน โดยมีสาขาให้บริการรวม 3 สาขา ทั้งในกรุงเทพฯ และปทุมธานี

 

  • สาขาศรีนครินทร์ โทร. 097-921-9552 
  • สาขาร่มเกล้า โทร. 095-906-0633
  • สาขาลำลูกกา โทร. 092-940-5098

 

ข้อมูลอ้างอิง 

1. กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการชนแล้วหนีโดยทนายความมืออาชีพ. สืบค้นวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 จาก https://www.legardy.com/blogs/hit-and-run-laws-in-thailand

This website uses cookies to create a good experience as well as to manage personal information for youwhile using our website. Privacy Policy

Accept