12.03.2025
10 วิธีแก้กลิ่นอับในรถ เพื่อรถหอมสดชื่นตลอดการเดินทาง

กลิ่นอับในรถคือปัญหากวนใจที่เจ้าของรถหลายคนต้องเผชิญ โดยเฉพาะในหน้าฝนหรือช่วงที่มีอากาศชื้น แม้จะทำความสะอาดรถเป็นประจำ แต่กลิ่นอับก็ยังคงอยู่ โดยสาเหตุหลักของกลิ่นอับเหล่านี้มักเกิดจากความชื้นสะสม ทำให้มีเชื้อราเติบโตอยู่ในพรมและเบาะ รวมถึงฝุ่นละอองที่สะสมในซอกมุมต่าง ๆ ของรถ ซึ่งนอกจากจะทำให้รู้สึกไม่สบายตัวระหว่างขับขี่แล้ว กลิ่นอับยังส่งผลต่อสุขภาพของผู้โดยสาร โดยเฉพาะผู้ที่มีภูมิแพ้หรือปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ หากปล่อยทิ้งไว้อาจทำให้กลิ่นฝังแน่นและยากต่อการกำจัดได้
ใครที่กำลังมองหาวิธีดับกลิ่นในรถ เราได้รวบรวม 10 วิธีง่าย ๆ ที่ทั้งใช้งบน้อยและทำเองได้ เพื่อช่วยให้รถยนต์กลับมาหอมสดชื่นและน่าใช้งานอีกครั้ง
10 วิธีดับกลิ่นในรถยนต์
เมื่อกลิ่นอับในรถเริ่มกวนใจ อย่าปล่อยให้ตัวเองนั่งเวียนหัวและทนขับขี่ต่อไป การหาวิธีดับกลิ่นเหม็นเน่าในรถมาช่วยแก้ไข จะทำให้เรามีความสุขกับการขับขี่ได้มากขึ้น
1. ทำความสะอาดภายในรถอย่างละเอียด
การเริ่มต้นแก้กลิ่นอับในรถที่ดีที่สุดคือทำความสะอาดรถยนต์ทั้งคัน โดยเฉพาะส่วนที่มีโอกาสสะสมความชื้น เช่น พรม เบาะ และช่องเก็บของ โดยใช้เครื่องดูดฝุ่นจัดการฝุ่นในซอกมุมต่าง ๆ หรือเช็ดทำความสะอาดเบาะหนังด้วยผ้าชุบน้ำหมาด ๆ สำหรับพรมที่มีกลิ่นอับ แนะนำให้นำออกไปซักและตากแดดให้แห้งสนิท
2. ใช้ถ่านดูดกลิ่น
ถ่านไม้ไผ่หรือถ่านชนิดอื่น ๆ ที่มีคุณสมบัติช่วยดูดซับกลิ่น จะช่วยดับกลิ่นในรถได้ดี เพียงวางถ่านไว้ใต้เบาะหรือบริเวณที่มีกลิ่นอับ ทิ้งไว้ประมาณ 1-2 วัน กลิ่นในรถจะจางลงอย่างเห็นได้ชัด
3. ตากแดดและเปิดประตูระบายอากาศ
ในกรณีที่รถมีกลิ่นอับจากความชื้น การนำรถไปจอดตากแดดในช่วงเช้า พร้อมเปิดประตูทุกบานเพื่อระบายอากาศ จะช่วยลดความชื้นสะสมและกำจัดกลิ่นได้ดี
4. ใช้เบกกิ้งโซดาดูดซับกลิ่น
เบกกิ้งโซดาเป็นตัวช่วยยอดนิยมในการดูดซับกลิ่นไม่พึงประสงค์ เพียงโรยเบกกิ้งโซดาบนเบาะหรือพรมที่มีกลิ่น ทิ้งไว้ 1-2 ชั่วโมง แล้วใช้เครื่องดูดฝุ่นทำความสะอาด กลิ่นไม่พึงประสงค์จะลดลงทันที
5. สเปรย์น้ำส้มสายชูผสมน้ำ
ผสมน้ำส้มสายชูขาวกับน้ำในอัตราส่วน 1:1 ใส่ขวดสเปรย์ แล้วฉีดพ่นบริเวณที่มีกลิ่นอับ ทิ้งไว้ 5 นาที แล้วเช็ดออกด้วยผ้าแห้ง น้ำส้มสายชูจะช่วยฆ่าเชื้อโรคและกำจัดกลิ่นได้อย่างรวดเร็ว
6. ใช้สมุนไพรไทยดับกลิ่น
สมุนไพรไทย เช่น ใบมะกรูด เปลือกส้ม หรือใบตะไคร้ เป็นทางเลือกธรรมชาติที่ช่วยดับกลิ่นในรถได้ เพียงนำสมุนไพรใส่ในถุงผ้าบาง ๆ แล้ววางไว้ในรถ กลิ่นหอมจากธรรมชาติจะช่วยให้บรรยากาศภายในรถสดชื่นขึ้น
7. เลือกใช้แผ่นดูดความชื้น
แผ่นดูดความชื้นเหมาะสำหรับรถที่มีความชื้นสะสมในอากาศ เพียงวางไว้ในรถ แผ่นดูดความชื้นจะช่วยลดโอกาสเกิดเชื้อราและกลิ่นเหม็น
8. ตรวจสอบและทำความสะอาดแอร์
แอร์รถที่ไม่ได้ทำความสะอาดมาเป็นเวลานาน อาจสะสมเชื้อราและกลิ่นเหม็นเอาไว้ การล้างแอร์หรือเปลี่ยนไส้กรองแอร์จึงเป็นสิ่งที่ควรทำอย่างน้อยปีละครั้ง เพื่อให้อากาศภายในรถสะอาดสดชื่น
9. ใช้เครื่องฟอกอากาศขนาดเล็ก
เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ได้รับความนิยม เพราะสามารถกรองฝุ่น เชื้อโรค และกลิ่นอับได้ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการอากาศสะอาดในระหว่างเดินทาง
10. ปรับพฤติกรรมการใช้รถ
พฤติกรรมบางอย่างอาจทำให้รถมีกลิ่นอับได้เช่นกัน เช่น การรับประทานอาหารในรถ การเก็บของเปียกไว้ในรถ หรือไม่ปิดกระจกให้สนิทเมื่อฝนตก ควรหลีกเลี่ยงสิ่งเหล่านี้เพื่อป้องกันปัญหาในระยะยาว
แก้กลิ่นเหม็นในรถให้หายขาดด้วยวิธีที่เหมาะสม
นอกจากการแก้กลิ่นอับในรถด้วยวิธีต่าง ๆ ข้างต้นแล้ว สิ่งสำคัญคือการรักษาความสะอาดและตรวจสอบรถอย่างสม่ำเสมอ หากกลิ่นเหม็นยังไม่หมดไป อาจต้องตรวจสอบปัญหาในจุดอื่น ๆ ที่ไม่สามารถทำด้วยตนเองได้ เช่น ระบบแอร์ หรือรอยรั่วซึมภายในรถ เพื่อแก้ไขทันที
ซื้อรถมือสองที่ผ่านการตรวจสอบสภาพ ไม่มีปัญหาเรื่องกลิ่นอับที่ Autovilla
หากคุณกำลังมองหารถมือสองสภาพดี สามารถเข้ามาเลือกชมได้ที่ Autovilla ศูนย์รวมตลาดรถมือสองออนไลน์ที่ครบวงจร พร้อมบริการรับซื้อรถติดไฟแนนซ์ มีรถให้เลือกมากกว่า 300 คัน ครบทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ รถทุกคันผ่านการตรวจสอบสภาพรถยนต์อย่างละเอียดถึง 344 จุด จาก Goo Inspection สถาบันที่ได้รับการรับรองจากประเทศญี่ปุ่น ไม่เพียงเท่านั้น เรายังมีบริการจัดหาไฟแนนซ์สินเชื่อรถยนต์เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าทุกท่าน
สามารถเยี่ยมชมรถได้ที่ 3 สาขา
- สาขาศรีนครินทร์ โทร. 097-921-9552
- สาขาร่มเกล้า โทร. 095-906-0633
- สาขาลำลูกกา โทร. 092-940-5098
ข้อมูลอ้างอิง:
1. เคล็ดลับดับกลิ่นอับในรถ ช่วงฝนกระหน่ำ. สืบค้นวันที่ 20 มกราคม 2568 จาก https://www.viriyah.com/article/detail/77-เคล็ดลับดับกลิ่นอับในรถ-ช่วงฝนกระหน่ำ