ไม่ว่าจะเป็นทริปวันหยุดพักผ่อน ทริปธุรกิจ หรือทริปครอบครัว ถ้าการเดินทางของคุณมีการขับรถในต่างประเทศรวมอยู่ในแผนด้วย สิ่งสำคัญที่ต้องมีคือ ‘ใบขับขี่สากล’ อย่างไรก็ดี หลายคนอาจมีข้อสงสัยว่า ใบขับขี่สากลทําที่ไหน ใช้อย่างไร และมีขั้นตอนการขออย่างไรบ้าง เราจึงจะมาตอบทุกข้อสงสัยเพื่อช่วยให้คุณสามารถเตรียมตัวสำหรับการทำใบขับขี่สากลได้อย่างราบรื่น พร้อมออกเดินทางสู่ทริปต่างประเทศได้อย่างมั่นใจ

 

ใบขับขี่สากลคืออะไร ?

ใบขับขี่สากล (International Driving Permit: IDP) เป็นเอกสารทางกฎหมายที่แปลข้อมูลจากใบขับขี่ในประเทศต้นทางเป็นภาษาสากล ใช้สำหรับยืนยันตัวตนในการขับขี่รถยนต์ในต่างประเทศ โดยใบขับขี่สากลช่วยรับรองว่าผู้ถือมีใบขับขี่ที่ถูกต้องตามกฎหมายในประเทศของตน และสามารถใช้ในประเทศที่ยอมรับ IDP ได้ อย่างไรก็ตามใบขับขี่สากลไม่สามารถใช้แทนใบขับขี่ในประเทศต้นทางได้ แต่ต้องเป็นการใช้ร่วมกันเท่านั้น

 

ทำไมต้องมีใบขับขี่สากล ?

 

1. ใช้ขับรถในต่างประเทศได้ถูกต้องตามกฎหมาย

ใบขับขี่สากลเป็นเอกสารที่ยืนยันว่าผู้ขับขี่มีสิทธิ์ขับรถตามกฎหมายในประเทศของตัวเอง รวมถึงประเทศที่ยอมรับ IDP เพราะฉะนั้นการมีใบขับขี่สากลจึงช่วยให้คุณสามารถขับรถในต่างประเทศได้โดยไม่ผิดกฎหมาย โดยเฉพาะในประเทศที่กำหนดให้ต้องใช้ใบขับขี่สากลเป็นหลักฐานประกอบในการขับขี่

 

2. ป้องกันปัญหาทางกฎหมาย

ถ้าคุณขับรถในต่างประเทศโดยไม่มีใบขับขี่สากล อาจเกิดปัญหาเมื่อถูกเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ เนื่องจากใบขับขี่ในประเทศของคุณอาจไม่ได้รับการยอมรับในต่างประเทศ ดังนั้น การทำใบขับขี่สากลก่อนเดินทาง จึงช่วยลดความเสี่ยงต่อการถูกปรับหรือถูกดำเนินคดีทางกฎหมายในประเทศปลายทางได้

 

3. สะดวกและปลอดภัยกว่า

ใบขับขี่สากลช่วยอำนวยความสะดวกในการเช่ารถยนต์ในต่างประเทศ เนื่องจากบริษัทเช่ารถส่วนใหญ่มักต้องการให้ผู้เช่าแสดง IDP เป็นหลักฐาน การมีใบขับขี่สากลติดตัวทำให้การเดินทางราบรื่นยิ่งขึ้น อีกทั้งใบขับขี่สากลสามารถใช้ได้ในหลายประเทศที่ยอมรับอนุสัญญาว่าด้วยการจราจรทางถนน เช่น กลุ่มประเทศในยุโรป เอเชีย และอเมริกาใต้ รวมถึงยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดข้อขัดแย้งทางกฎหมายในระหว่างการเดินทางได้อีกด้วย 

 

 

 

ใบขับขี่สากลใช้ได้ในประเทศไหนบ้าง ?

ใบขับขี่สากลที่ออกโดยประเทศไทยได้รับการยอมรับมากกว่า 150 ประเทศทั่วโลก ตามอนุสัญญาเจนีวาปี ค.ศ.1949 และอนุสัญญาเวียนนาปี ค.ศ.1968 โดยแต่ละประเภทจะมีอายุการใช้งานและประเทศที่สามารถใช้งานได้จะแตกต่างกันไปตามที่ระบุเอาไว้ตามอนุสัญญา ดังนี้

 

อนุสัญญา	อนุสัญญาเจนีวาปี ค.ศ. 1949	อนุสัญญาเวียนนาปี ค.ศ. 1968
อายุการใช้งาน	1 ปี	3 ปี หรือเท่ากับอายุของใบขับขี่ภายในประเทศที่ผู้ถือมีอยู่
จำนวนประเทศที่ครอบคลุม	101 ประเทศ	86 ประเทศ
ตัวอย่างประเทศที่ต้องออกใบขับขี่สากลตามอนุสัญญา	เอเชีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ไทย (สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ) ยุโรป ไอร์แลนด์ มอลตา นอร์เวย์ ไซปรัส สหราชอาณาจักร อเมริกา สหรัฐอเมริกา แคนาดา เม็กซิโก บราซิล อาร์เจนตินา ชิลี ออสเตรเลียและโอเชียเนีย ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ฟิจิ แอฟริกา แอฟริกาใต้ อียิปต์ เคนยา	เอเชีย รัสเซีย เวียดนาม ลาว ฟิลิปปินส์ มองโกเลีย คาซัคสถาน ยุโรป ฝรั่งเศส เยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์ ออสเตรีย เบลเยียม เดนมาร์ก ฟินแลนด์ จอร์เจีย อิตาลี  ตุรกี อเมริกา คิวบา กัวเตมาลา อาร์เจนตินา บราซิล ชิลี ออสเตรเลียและโอเชียเนีย ออสเตรเลีย ฟิจิ แอฟริกา เคนยา ซิมบับเว โมร็อกโก

 

ทั้งนี้ก่อนการเดินทางควรตรวจสอบข้อกำหนดประเทศปลายทางให้ดี เนื่องจากบางประเทศอาจรับรองทั้งใบขับขี่สากลตามอนุสัญญา 1949 และ 1968 อีกทั้งบางประเทศอาจมีข้อจำกัดเรื่องระยะเวลาการใช้ใบขับขี่สากลเมื่อเข้าไปในประเทศนั้น ๆ ด้วย

 

คุณสมบัติผู้ขอทำใบขับขี่สากล

 

การขอใบขับขี่สากลในประเทศไทย สามารถทำได้โดยผู้ที่มีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนดต่อไปนี้

 

1. สัญชาติ : ต้องเป็นผู้มีสัญชาติไทย หรือผู้ที่มีถิ่นพำนักอยู่ในประเทศไทย เช่น ชาวต่างชาติที่มีใบอนุญาตทำงานหรือวีซ่าระยะยาว

2. ใบขับขี่ในประเทศไทย : ต้องมีใบขับขี่ในประเทศไทยที่ยังไม่หมดอายุ โดยต้องเป็นใบขับขี่ชนิด 5 ปี หรือใบขับขี่ตลอดชีพเท่านั้น (ใบขับขี่ชั่วคราวไม่สามารถใช้ได้)

3. อายุ : ต้องมีอายุครบ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป

4. ความสมบูรณ์ของสุขภาพ : ไม่มีโรคหรือสภาพร่างกายที่เป็นอุปสรรคต่อการขับขี่ เช่น โรคที่ทำให้ไม่สามารถควบคุมยานพาหนะได้

 

เอกสารที่ต้องใช้ในการขอทำใบขับขี่สากล

สำหรับใครที่สงสัยว่าใบขับขี่สากลทําที่ไหน ? คำตอบคือในปัจจุบันเราสามารถทำใบขับขี่สากลได้ทั้งที่สำนักงานขนส่ง และทำผ่านแอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" โดยมีเอกสารหลักที่ต้องจัดเตรียม ดังนี้ 

 

1. สำหรับการทำใบขับขี่สากลที่สำนักงานขนส่ง

 

• ใบขับขี่ฉบับปัจจุบัน: ตัวจริงแบบ 5 ปีหรือตลอดชีพ พร้อมสำเนา 1 ชุด
• บัตรประชาชน (สำหรับคนไทย) หรือ หนังสือเดินทาง (Passport) พร้อมสำเนาสำหรับชาวต่างชาติ
• รูปถ่ายขนาด 2 นิ้ว (4 x 6 ซม.) จำนวน 2 ใบ ถ่ายไม่เกิน 6 เดือน พื้นหลังสีขาว
• ใบคำขอทำใบขับขี่สากล ที่กรอกข้อมูลครบถ้วน
• หนังสือเดินทาง (Passport) ที่มีอายุคงเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือน
• ค่าธรรมเนียมประมาณ 500 บาท

 

2. สำหรับการทำใบขับขี่สากลผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง

คุณสามารถทำใบขับขี่สากลได้สะดวกยิ่งขึ้น ไม่ต้องเดินทางไปยังสำนักงานขนส่ง เพียงเตรียมเอกสารดังนี้ 

• รูปถ่ายหน้าตรง ขนาดไฟล์ไม่เกิน 5 MB (ถ่ายไม่เกิน 6 เดือน)
• หนังสือเดินทาง ที่มีอายุคงเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือน
• ใบขับขี่ อายุคงเหลือไม่น้อยกว่า 3 เดือน (ไม่สามารถใช้ใบขับขี่ชั่วคราว 2 ปีได้)

 

ขั้นตอนการขอทำใบขับขี่สากลในประเทศไทย

 

1. ขั้นตอนการทำใบขับขี่สากลที่สำนักงานขนส่ง

1. จองคิวออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue หรือเว็บไซต์กรมการขนส่งทางบก

2. เตรียมเอกสารให้ครบถ้วน

3. เดินทางไปยังสำนักงานขนส่งที่จองคิวไว้

4. ยื่นคำขอพร้อมตรวจสอบความถูกต้องของเอกสาร

5. ชำระค่าธรรมเนียม 500 บาท

6. รอรับใบขับขี่สากลที่ออกให้ทันที

 

2. ขั้นตอนการทำใบขับขี่สากลผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง

1. เปิดแอปพลิเคชันเป๋าตังบนสมาร์ตโฟน

2. ไปที่เมนู "บริการ" และเลือก "กรมการขนส่งทางบก"

3. ระบบจะแสดงข้อมูลเอกสารที่ต้องเตรียม กดปุ่ม "ถัดไป"

4. เลือกประเภทใบอนุญาตขับขี่สากล 

• อนุสัญญาเจนีวา 1949: อายุการใช้งาน 1 ปี (ใช้ได้ 102 ประเทศ)
• อนุสัญญาเวียนนา 1968: อายุการใช้งาน 3 ปี (ใช้ได้ 91 ประเทศ)

5. กรอกข้อมูลบัตรประชาชนและสแกนใบหน้า

6. อัปโหลดรูปถ่ายหน้าตรง (สามารถอัปโหลดได้สูงสุด 5 ครั้ง)

7. ยืนยันที่อยู่สำหรับจัดส่ง

8. ชำระค่าธรรมเนียมและค่าจัดส่งผ่านแอปฯ เป๋าตัง

9. รอรับใบขับขี่สากลที่จัดส่งถึงบ้านทางไปรษณีย์

 

หากมีใบขับขี่สากลแล้ว ยังต้องใช้ใบขับขี่ไทยหรือไม่ ?

 

คำตอบคือ ใช่ ใบขับขี่สากลไม่ใช่ใบขับขี่หลักสำหรับการขับขี่รถยนต์ในประเทศไทย แต่เป็นเอกสารเสริมเท่านั้น ดังนั้น ผู้ขับขี่ต้องพกใบขับขี่ไทยควบคู่กันเสมอ โดยการใช้งานใบขับขี่สากลจะต้องมีใบขับขี่ในประเทศที่ยังไม่หมดอายุ ซึ่งหากใบขับขี่ไทยหมดอายุ ใบขับขี่สากลจะไม่มีผลบังคับใช้โดยอัตโนมัติ แม้ยังไม่ครบกำหนดเวลาก็ตาม นอกจากนี้ ใบขับขี่สากลจะไม่สามารถต่ออายุได้ ผู้ถือใบขับขี่ต้องยื่นคำขอใหม่ทุกครั้งเมื่อครบกำหนด

นอกจากการมีใบขับขี่ที่ถูกต้องตามกฎหมายแล้ว ถ้าอยากขับขี่ได้อย่างมั่นใจ การมีรถที่มั่นใจในคุณภาพก็สำคัญไม่แพ้กัน โดยถ้าอยากได้รถมือสองที่มั่นใจได้ในคุณภาพ หรือใครที่กำลังมองหาเต็นท์รถมือสองในกรุงเทพ ฯ แนะนำ Autovilla ตลาดรถมือสองคุณภาพดีที่ผ่านการตรวจประเมินสภาพรถยนต์ถึง 344 จุด จาก Goo Inspection ซึ่งเป็นสถาบันที่ได้รับการรับรองจากประเทศญี่ปุ่น โดยรับซื้อรถมือสองให้ราคาสูง สามารถโอนกรรมสิทธิ์ได้ 100% พร้อมอำนวยความสะดวก ช่วยจัดหาไฟแนนซ์ด้านสินเชื่อรถยนต์ 

 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 

สาขาศรีนครินทร์ โทร. 097-921-9552 

สาขาร่มเกล้า โทร. 095-906-0633 

สาขาลำลูกกา โทร. 092-940-5098

 

ข้อมูลอ้างอิง

1. ทำความรู้จักใบขับขี่สากล. สืบค้นข้อมูลเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2567 จาก https://safedrivedlt.com/ทำใบขับขี่/ใบขับขี่สากล/