แบตเตอรี่รถยนต์หมดเป็นปัญหาที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ซึ่งการรู้วิธีจัมป์แบตรถยนต์เอาไว้จะช่วยให้สามารถแก้ไขสถานการณ์ได้ด้วยตัวเอง ส่วนสาเหตุที่ทำแบตเตอรี่รถยนต์หมดนั้น เกิดได้จากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะจากการลืมปิดไฟในรถ หรือแบตเตอรี่มีอายุการใช้งานที่ยาวนานเกินไป และเพื่อช่วยลดความตื่นตระหนกหากรถยนต์หยุดกลางทางจากปัญหานี้ การรู้วิธีจัมป์แบตรถยนต์เบื้องต้น จะช่วยให้คุณสามารถแก้ไขสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย

 

รู้ก่อน ! เจาะสาเหตุที่แบตเตอรี่รถยนต์หมด

ปัญหาแบตเตอรี่หมดสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ โดยสาเหตุหลักที่พบบ่อย ได้แก่

 

• ลืมปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าในรถ ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้า ไฟห้องโดยสาร หรืออุปกรณ์ชาร์จมือถือที่เปิดทิ้งไว้ สามารถดึงพลังงานจากแบตเตอรี่ไปจนหมดได้
• อายุการใช้งานแบตเตอรี่ โดยทั่วไป แบตเตอรี่รถยนต์จะมีอายุการใช้งานประมาณ 2-3 ปี หากไม่ได้เปลี่ยนตามกำหนด อาจทำให้แบตเตอรี่เสื่อมประสิทธิภาพและไม่สามารถเก็บไฟได้ดีเหมือนแต่ก่อน
• ระบบไฟฟ้าในรถมีปัญหา เช่น ไดชาร์จเสีย หรือสายไฟชำรุด ซึ่งอาจทำให้แบตเตอรี่ไม่ได้รับการชาร์จไฟที่เพียงพอ
• การจอดรถเป็นเวลานานโดยไม่ได้สตาร์ตเครื่อง ทำให้แบตเตอรี่ไม่มีการชาร์จและไฟหมดในที่สุด

 

เตรียมตัวก่อนจัมป์แบตรถยนต์

การจัมป์แบตรถยนต์เป็นขั้นตอนที่ต้องดำเนินการอย่างรอบคอบ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ การเตรียมตัวก่อนเริ่มจัมป์แบตจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ควรใส่ใจ ทั้งเรื่องของอุปกรณ์ที่ใช้ ไปจนถึงสถานที่ในการจัมป์แบตรถยนต์

สายพ่วงแบตเตอรี่คุณภาพดี

สายพ่วงแบตเตอรี่ ถือเป็นอุปกรณ์สำคัญสำหรับการจัมป์แบตรถ การเลือกสายพ่วงที่เหมาะสมจะช่วยลดความเสี่ยงของไฟฟ้าลัดวงจรและเพิ่มประสิทธิภาพในการส่งกระแสไฟฟ้า ทั้งนี้ ควรเลือกสายพ่วงที่มีความยาวเพียงพอและฉนวนป้องกันไฟฟ้ารั่ว เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดอันตราย

รถยนต์ที่มีแบตเตอรี่พร้อมใช้งาน

การเลือกใช้รถที่มีแบตเตอรี่สภาพดีมีความสำคัญอย่างมาก เพราะแบตเตอรี่ที่อ่อนกำลังจะไม่สามารถส่งกระแสไฟฟ้าได้เพียงพอสำหรับการจัมป์แบต อีกทั้งยังควรตรวจสอบว่าแบตเตอรี่รถยนต์คันที่มาจัมป์แบตให้ไม่มีรอยรั่ว หรือขั้วแบตที่ชำรุด

สถานที่ที่ปลอดภัย

สถานที่ที่เหมาะสมสำหรับการจัมป์แบต จะช่วยลดความเสี่ยงและทำให้กระบวนการจัมป์แบตเป็นไปอย่างราบรื่น โดยควรเลือกจุดที่ไม่มีสารไวไฟและพื้นผิวเรียบ เพื่อป้องกันรถเลื่อนหลุดระหว่างทำการจัมป์แบต

 

 

วิธีพ่วงแบตเตอรี่รถยนต์

การพ่วงแบตเตอรี่รถยนต์เป็นวิธีการแก้ไขปัญหาแบตเตอรี่หมดที่สะดวกและรวดเร็ว หากเตรียมอุปกรณ์และสถานที่เรียบร้อยแล้ว การปฏิบัติตามวิธีพ่วงแบตรถยนต์ที่ถูกต้องจะช่วยให้การจัมป์แบตเป็นไปอย่างปลอดภัย

 

1. หันหน้ารถเข้าหากัน

เริ่มต้นด้วยการจอดรถทั้งสองคันให้หันหน้าเข้าหากัน โดยควรเว้นระยะห่างระหว่างรถเล็กน้อยในระยะที่สายพ่วงแบตเตอรี่สามารถเชื่อมต่อกันได้สะดวก จากนั้นดับเครื่องยนต์และปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าทั้งหมด

 

2. ต่อสายพ่วงแบตรถยนต์

ขั้นตอนนี้เป็นหัวใจสำคัญของการพ่วงแบตเตอรี่ซึ่งควรทำอย่างระมัดระวัง เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดประกายไฟ หรือไฟฟ้าลัดวงจร

 

• หนีบสายพ่วงขั้วบวก (สีแดง) กับขั้วบวกของแบตเตอรี่รถที่หมดและรถที่ใช้ช่วยจัมป์
• หนีบสายพ่วงขั้วลบ (สีดำ) กับขั้วลบของแบตเตอรี่รถที่ใช้ช่วย ส่วนอีกด้านให้หนีบเข้ากับโลหะที่เป็นกราวด์ของรถที่แบตหมด เช่น โครงเครื่องยนต์ หรือชิ้นส่วนโลหะที่ไม่มีสีเคลือบ

3. สตาร์ตเครื่องยนต์

เมื่อเชื่อมต่อสายพ่วงแบตเตอรี่เรียบร้อยแล้ว ให้เริ่มสตาร์ตเครื่องยนต์ของรถที่แบตเตอรี่ยังดีทิ้งไว้ประมาณ 5-10 นาที เพื่อส่งกระแสไฟฟ้าไปยังแบตเตอรี่รถที่หมด จากนั้นสตาร์ตรถที่แบตหมด หากสตาร์ตไม่ติดในครั้งแรก ให้รอสักครู่แล้วลองใหม่อีกครั้ง

 

4. ถอดสายพ่วง

เมื่อสามารถสตาร์ตเครื่องยนต์ของรถที่แบตหมดได้แล้ว ให้ถอดสายพ่วงตามลำดับย้อนกลับ คือถอดสายขั้วลบก่อน แล้วจึงถอดสายขั้วบวก เพื่อความปลอดภัย

 

วิธีดูแลแบตเตอรี่รถยนต์ให้ใช้งานได้นาน

เพื่อป้องกันไม่ให้แบตเตอรี่หมดกลางทาง ควรดูแลแบตเตอรี่รถยนต์อย่างสม่ำเสมอ ดังนี้

 

• ตรวจสอบขั้วแบตเตอรี่ ว่าไม่มีคราบสนิมหรือสารกัดกร่อน เนื่องจากขั้วแบตเตอรี่ที่มีคราบสนิม หรือสารกัดกร่อนอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้กระแสไฟฟ้าไม่สามารถส่งผ่านได้อย่างมีประสิทธิภาพ
• สตาร์ตรถเป็นประจำ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง เพื่อให้แบตเตอรี่ได้รับการชาร์จจากไดชาร์จ
• เปลี่ยนน้ำมันแบตเตอรี่ ควรตรวจสอบระดับน้ำในแบตเตอรี่อย่างสม่ำเสมอและเติมน้ำกลั่นให้เพียงพอตามที่กำหนด เพราะน้ำที่อยู่ในแบตเตอรี่จะช่วยรักษาสมดุลในการเก็บพลังงานและส่งกระแสไฟฟ้า
• ตรวจสอบระบบไฟฟ้าในรถ โดยนำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อตรวจสอบไดชาร์จ สายไฟ รวมถึงระบบไฟฟ้าอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันปัญหาแบตเตอรี่หมดจากระบบที่เสียหาย

 

การจัมป์แบตรถยนต์ เป็นทักษะพื้นฐานที่ผู้ขับขี่ควรรู้ เพื่อรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉิน การปฏิบัติตามขั้นตอนอย่างถูกต้องจะช่วยให้การจัมป์แบตปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ เพราะเมื่อต้องการนำรถไปขายต่อ ก็จะทำให้ได้ราคาดียิ่งขึ้น สำหรับใครที่กำลังมองหาเต็นท์รถมือสองคุณภาพดี หรือเว็บซื้อขายรถมือสอง แวะมาได้ที่ Autovilla เรามีรถให้เลือกครบทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ มากกว่า 300 คัน โดยผ่านการตรวจประเมินสภาพรถยนต์ถึง 344 จุด จาก Goo Inspection ซึ่งเป็นสถาบันที่ได้รับการรับรองจากประเทศญี่ปุ่น พร้อมช่วยจัดหาไฟแนนซ์ด้านสินเชื่อรถยนต์เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าทุกท่าน

 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

 

• สาขาศรีนครินทร์ โทร. 097-921-9552
• สาขาร่มเกล้า โทร. 095-906-0633
• สาขาลำลูกกา โทร. 092-940-5098

 

ข้อมูลอ้างอิง:

1. แบตเตอรี่ พ่วงแบตเตอรี่รถยนต์อย่างไร?. สืบค้นวันที่ 21 มกราคม 2568 จาก https://www.b-quik.com/th/advice/battery/how-to-jump-start-a-car