ในระบบปรับอากาศของรถยนต์ ไส้กรองแอร์รถยนต์เป็นหนึ่งในชิ้นส่วนสำคัญที่มักถูกมองข้าม ทั้งที่มีหน้าที่สำคัญในการกรองอากาศจากสิ่งสกปรก ฝุ่นละออง หรือแม้กระทั่งแบคทีเรีย ก่อนจะส่งอากาศสะอาดเข้าสู่ภายในตัวรถ หากปล่อยให้ไส้กรองแอร์รถยนต์สกปรกหรืออุดตัน อาจส่งผลต่อสุขภาพและทำให้ระบบปรับอากาศทำงานหนักจนเสียหายได้

ตอบครบทุกเรื่องที่เจ้าของรถควรรู้เกี่ยวกับไส้กรองแอร์รถยนต์

ไส้กรองแอร์รถยนต์ควรเปลี่ยนเมื่อไร ?

คำถามที่พบบ่อยในหมู่เจ้าของรถคือ “ไส้กรองแอร์รถยนต์ ควรเปลี่ยนเมื่อไร ? และควรเปลี่ยนทุกกี่กิโล ?" โดยทั่วไปแล้ว ไส้กรองแอร์ควรเปลี่ยนทุก 10,000-15,000 กิโลเมตร หรือ 6-12 เดือน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมการใช้งาน เช่น หากขับรถในพื้นที่ที่มีฝุ่นหรือมีมลพิษมาก ควรเปลี่ยนที่กรองแอร์รถยนต์บ่อยขึ้น เพื่อให้ระบบปรับอากาศทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ เพราะฝุ่นละอองที่สะสมจะทำให้ระบบแอร์ทำงานหนัก ส่งผลให้เกิดปัญหาตามมา เช่น กลิ่นเหม็นอับ หรือแอร์ไม่เย็น

ทำไมถึงควรเปลี่ยนไส้กรองแอร์รถยนต์ตามกำหนด ?

การปล่อยให้ไส้กรองแอร์อุดตันอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพ รวมถึงส่งผลต่อประสิทธิภาพและอายุการใช้งานของระบบปรับอากาศของรถยนต์โดยรวม ดังนี้

• อากาศไม่สะอาด เพิ่มความเสี่ยงต่อสุขภาพ โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้หรือมีระบบทางเดินหายใจอ่อนแอ เช่น การระคายเคืองของระบบทางเดินหายใจ
• แอร์ไม่เย็น เนื่องจากแรงลมไม่สามารถไหลผ่านได้อย่างราบรื่น จึงอาจต้องเปิดพัดลมแรงขึ้น หรือปรับอุณหภูมิให้ต่ำลง ส่งผลต่อค่าใช้จ่ายน้ำมันที่เพิ่มขึ้น
• เพิ่มความเสียหายต่อระบบแอร์ หากระบบปรับอากาศทำงานหนักเกินไป อาจทำให้ส่วนประกอบเสียหายและเสื่อมสภาพเร็วขึ้น

สัญญาณที่บอกว่าไส้กรองแอร์เริ่มอุดตัน

การสังเกตอาการเบื้องต้นสามารถช่วยป้องกันปัญหาร้ายแรงที่อาจเกิดขึ้นตามมาได้ โดยไส้กรองแอร์รถยนต์ที่เริ่มอุดตันมักแสดงอาการที่สังเกตได้ ดังนี้

• ลมแอร์อ่อนแรง ถึงแม้จะปรับความแรงของพัดลมสูงสุด แต่ลมที่ออกมายังไม่แรงเท่าที่ควร
• มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ เช่น กลิ่นเหม็นอับ หรือกลิ่นฝุ่นภายในห้องโดยสาร
• มีเสียงดังผิดปกติ เมื่อเปิดแอร์ ซึ่งอาจเกิดจากฝุ่นที่อุดตันจนส่งผลต่อระบบหมุนเวียนอากาศ

ไส้กรองแอร์ที่สกปรกหรืออุดตัน จะทำให้ระบบปรับอากาศทำงานหนักขึ้น ส่งผลให้รถยนต์กินน้ำมันและอายุการใช้งานของแอร์สั้นลง ดังนั้น หากพบสัญญาณที่บ่งบอกถึงอาการผิดปกติ ควรตรวจสอบและเปลี่ยนกรองแอร์รถยนต์ทันที เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อทั้งสุขภาพและสมรรถนะของรถยนต์

เคล็ดลับดูแลระบบปรับอากาศรถยนต์ให้เหมือนใหม่อยู่เสมอ

นอกจากการเปลี่ยนไส้กรองแอร์รถยนต์ตามระยะเวลาที่กำหนดแล้ว สิ่งที่คนรักรถต้องทำควบคู่กันไป ก็คือ การดูแลระบบปรับอากาศรถยนต์ให้ทำงานได้ดีเหมือนใหม่อยู่เสมอ ด้วยเคล็ดลับดังต่อไปนี้

• ทำความสะอาดภายในรถยนต์เป็นประจำ เพราะฝุ่นและสิ่งสกปรกที่สะสมในรถสามารถถูกดูดเข้าไปในระบบแอร์ได้ การดูดฝุ่นและเช็ดทำความสะอาดภายในรถ จะช่วยลดโอกาสที่ฝุ่นจะเข้าไปสะสมอยู่ในไส้กรองแอร์
• หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ในรถ เพราะควันบุหรี่จะก่อให้เกิดคราบบนแผ่นกรองแอร์ และทำให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์
• ใช้โหมดนำอากาศจากภายนอกเป็นระยะ เพื่อป้องกันการสะสมของอากาศหมุนเวียนในระบบ ซึ่งอาจทำให้เกิดกลิ่นอับชื้น

นอกจากสาระดี ๆ ที่เรานำมาฝากคนรักรถ หากใครที่สนใจซื้อ-ขายรถมือสอง สามารถปรึกษา Autovilla ได้เลย เราคือศูนย์รับซื้อรถมือสอง ที่พร้อมจำหน่ายรถมือสองคุณภาพดี มีรถให้เลือกครบทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ มากกว่า 300 คัน คัดรถคุณภาพ ทุกคันผ่านการตรวจประเมินสภาพรถยนต์ถึง 344 จุด จาก Goo Inspection ซึ่งเป็นสถาบันที่ได้รับการรับรองจากประเทศญี่ปุ่น รับประกันว่าไม่มีการชนหนัก ตัดต่อ น้ำท่วม หรือพลิกคว่ำ ไม่ว่าจะอยากซื้อหรืออยากขาย ก็พร้อมให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่ายแฝง

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

• สาขาศรีนครินทร์ โทร. 097-921-9552
• สาขาร่มเกล้า โทร. 095-906-0633
• สาขาลำลูกกา โทร. 092-940-5098

ข้อมูลอ้างอิง:

1. ไส้กรองแอร์ ควรเปลี่ยนเมื่อไหร่ดี. สืบค้นวันที่ 21 มกราคม 2568 จาก https://unitedhonda.com/blog/ไส้กรองแอร์รถยนต์-ควรเปลี่ยนเมื่อไหร่