18.06.2025

รถยนต์ยางรั่ว ยางแบนบ่อย ? สาเหตุที่ควรเช็กและวิธีป้องกัน

สาเหตุยางแบน วิธีรับมือ และการดูแลยางรถให้ปลอดภัยทุกเส้นทาง

ปัญหา "ยางแบน" หรือ "ยางรั่ว" เป็นเรื่องที่เจ้าของรถยนต์แทบทุกคนต้องเคยเผชิญ ทำให้หลายคนอาจสงสัยว่าหากต้องเจอกับเหตุการณ์รถยนต์ยางแบนยางรั่วขณะขับขี่ควรทำอย่างไร ? ควรขับต่อไปหรือไม่ และจะมีวิธีไหนช่วยป้องกันไม่ให้เกิดซ้ำอีกบ้าง บทความนี้จะพาคุณไปเช็กสาเหตุที่ทำให้ยางแบน พร้อมแนะนำวิธีแก้ไขและป้องกันอย่างถูกต้อง เพื่อให้คุณขับขี่ได้อย่างมั่นใจและปลอดภัยในทุกเส้นทาง

 

สาเหตุที่ทำให้ยางแบนและยางรั่วบ่อย

ก่อนจะหาวิธีแก้ เราต้องรู้ก่อนว่าสาเหตุของปัญหายางแบนทำไงถึงจะไม่เป็นอีก ซึ่งโดยทั่วไปควรเริ่มจากการเข้าใจสาเหตุหลักที่พบได้บ่อย ซึ่งมีดังนี้

 

วัตถุแหลมคมตำยาง

ตะปู เศษแก้ว หรือวัตถุมีคมบนพื้นถนนมักเป็นตัวการอันดับต้น ๆ ที่ทำให้ยางรั่ว โดยเฉพาะในพื้นที่ก่อสร้างหรือเส้นทางที่มีเศษวัสดุตกหล่น ยางอาจแบนทันทีหรือค่อย ๆ รั่วจนไม่ทันสังเกต

 

ยางซึมขอบหรือวาล์วรั่ว

ล้อแม็กซ์ที่บิ่นหรือขอบยางไม่แนบสนิทกับวงล้อ รวมถึงวาล์วลมที่เสื่อมสภาพ มักเป็นจุดที่ทำให้ลมรั่วออกช้า ๆ จนยางแบนในที่สุด

 

ยางเสื่อมตามอายุการใช้งาน

แม้จะไม่ได้ใช้งานหนัก ยางที่มีอายุเกิน 3-5 ปีมักเริ่มเสื่อมสภาพ มีรอยแตกลายงา และโครงสร้างอ่อนตัวลง ทำให้เกิดการรั่วซึมได้ง่ายกว่ายางใหม่ การใช้ยางที่เก่าเกินไปนอกจากจะเสี่ยงต่อการยางแบนแล้ว ยังเป็นอันตรายต่อการขับขี่อีกด้วย

 

แรงดันลมยางไม่เหมาะสม

ลมยางที่อ่อนเกินไปจะทำให้แก้มยางรับน้ำหนักมากเกิน ส่งผลให้เกิดความร้อนสะสม ในขณะเดียวกันหากลมยางแข็งเกินไป ก็อาจทำให้หน้ายางสึกไม่สม่ำเสมอและเสี่ยงต่อการระเบิดได้

 

รถยางแบน ทำยังไง ? วิธีรับมือเบื้องต้น

หากพบว่ารถยางแบนขณะขับขี่หรือจอดอยู่ อย่าเพิ่งตกใจ คุณสามารถรับมือได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพด้วยขั้นตอนดังนี้

 

วิธีตรวจสอบจุดรั่วและสัญญาณเตือน

 

• รถส่ายหรือดึง : หากขณะขับรถอยู่แล้วรู้สึกว่ารถมีอาการดึงไปด้านใดด้านหนึ่ง อาจเกิดจากลมยางที่ไม่สมดุล หรือยางด้านใดด้านหนึ่งกำลังแบนลง
• เสียงผิดปกติจากล้อ : เสียงกุกกัก เสียงครืด หรือเสียงผิดปกติที่ดังขึ้นตามความเร็วรถ อาจบ่งบอกถึงความเสียหายภายในยาง
• รอยสึกของหน้ายางไม่สม่ำเสมอ : หากสังเกตเห็นว่าดอกยางสึกไม่เท่ากัน เช่น ตรงกลางสึกมากกว่าขอบ หรือขอบสึกมากกว่าตรงกลาง แสดงว่าแรงดันลมยางไม่เหมาะสม
• แก้มยางบวม : หากพบว่ามีส่วนหนึ่งของแก้มยางบวมผิดปกติ แสดงว่าโครงสร้างภายในยางอาจเสียหาย ควรเปลี่ยนยางทันที
• พวงมาลัยหนัก รถไม่เกาะถนน : อาการนี้อาจเกิดจากลมยางต่ำเกินไป ทำให้พื้นที่สัมผัสระหว่างยางกับถนนมากเกินไป

 

กรณีฉุกเฉินรถยางรั่วขับต่อได้ไหม ?

 

• กรณียางแบนเล็กน้อย : หากยางรถยนต์เริ่มมีลมที่อ่อนลง สามารถขับรถช้า ๆ ไปยังจุดจอดหรือศูนย์บริการที่ใกล้ที่สุดได้ แต่ไม่ควรขับเร็วหรือขับไกล เพราะจะทำให้ยางเสียหายมากขึ้น
• กรณียางแบนสนิท : หากยางแบนจนแก้มยางสัมผัสพื้น ห้ามฝืนขับต่อเด็ดขาด เพราะจะทำให้โครงสร้างยางเสียหายถึงขั้นต้องเปลี่ยนยางใหม่ทั้งเส้น ควรจอดรถทันทีในจุดที่ปลอดภัยและขอความช่วยเหลือ

 

ขั้นตอนแก้ไขเบื้องต้นเมื่อเจอยางแบนหรือยางรั่ว

 

1. ปรับลดความเร็วลงเพื่อความปลอดภัย : หากพบว่ายางมีปัญหาขณะขับขี่ ให้ค่อย ๆ ลดความเร็วลงโดยไม่เบรกกะทันหัน
2. ขับรถไปยังที่จอดที่ปลอดภัย : พยายามหาพื้นที่ราบและแข็งเพื่อจอดรถ หลีกเลี่ยงการจอดบนไหล่ทางที่แคบหรือทางโค้ง
3. เปิดไฟฉุกเฉิน : เพื่อให้รถคันอื่นสังเกตเห็น
4. ตรวจสอบสภาพยาง : ดูว่ายางเสียหายระดับไหน มีวัตถุแปลกปลอมติดอยู่หรือไม่
5. เปลี่ยนยางโดยใช้ยางอะไหล่ : หากมียางอะไหล่และอุปกรณ์ครบ สามารถเปลี่ยนยางได้ตามขั้นตอนมาตรฐาน
6. โทรขอความช่วยเหลือ : หากไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ด้วยตนเอง ให้โทรเรียกบริการช่วยเหลือฉุกเฉินหรือบริการลากรถ

 

ช่างกำลังเปลี่ยนยางใหม่ เพื่อแก้ปัญหายางแบน

 

วิธีแก้ยางรถยนต์ซึมขอบ

ปัญหายางซึมขอบเป็นปัญหาที่พบได้บ่อย โดยเฉพาะกับรถที่ใช้งานมานานหรือมีสภาพล้อและยางที่เสื่อมสภาพ วิธีการแก้ไขสามารถทำได้ดังนี้


 กรณีรอยรั่วขนาดเล็ก : สามารถใช้ชุดปะยางแบบแทงใยไหมซ่อมแซมด้วยตัวเองได้ชั่วคราว แต่ควรนำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อตรวจเช็กเพิ่มเติม
 กรณีรอยรั่วขนาดใหญ่หรือยางเสื่อมสภาพ : แนะนำให้เปลี่ยนยางใหม่ทันที เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่
 กรณีฝาปิดจุกลมชำรุด : ให้เปลี่ยนฝาปิดจุกลมที่ชำรุดโดยเร็ว เพื่อป้องกันไม่ให้ลมรั่วออกอย่างต่อเนื่อง
 กรณีล้อแม็กหรือกระทะล้อเสียหาย : หากขอบล้อบิ่น บุบ หรือบิดเบี้ยว ควรนำไปซ่อมโดยการเคาะ ดัด หรือปรับให้ได้รูปเดิม หากเสียหายมาก อาจต้องเปลี่ยนล้อใหม่

 

เคล็ดลับดูแลยางรถยนต์ให้ปลอดภัย ห่างไกลปัญหายางแบน

การป้องกันดีกว่าการแก้ไข โดยเฉพาะกับปัญหายางรถยนต์ ซึ่งหากเกิดขึ้นกลางทางอาจทำให้คุณทั้งเสียเวลาและเสียเงินโดยไม่จำเป็น มาดูเคล็ดลับการดูแลยางรถยนต์ให้ใช้งานได้ยาวนานและปลอดภัยดังนี้


 ตรวจสอบแรงดันลมยางอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยเดือนละครั้ง และทุกครั้งก่อนออกเดินทางไกล โดยเติมลมตามค่ามาตรฐานที่ระบุไว้ในคู่มือรถหรือสติกเกอร์บริเวณเสาประตู
 หมั่นสังเกตสภาพดอกยางและรอยแตกร้าว หากพบว่าดอกยางเริ่มสึก หรือมีรอยแตก ควรเปลี่ยนยางใหม่ทันที
 ตรวจเช็กขอบล้อและวาล์วยาง เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีการรั่วซึมหรือชำรุดที่อาจทำให้ยางเสียความดัน
 หลีกเลี่ยงการขับรถตกหลุมหรือขึ้นฟุตบาทด้วยความเร็ว เพราะอาจทำให้โครงสร้างยางเสียหายโดยไม่รู้ตัว
 พกชุดปะยางฉุกเฉินและอุปกรณ์เติมลมติดรถไว้เสมอ เพื่อใช้ในกรณีฉุกเฉินที่ไม่สามารถหาศูนย์บริการได้ทันที

 

สำหรับคนที่กำลังมองหารถยนต์มือสองสภาพดี หมดกังวลเรื่องยางแบน หรือปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ Autovilla มีทั้งรถกระบะ ISUZU มือสอง และรถยนต์จากแบรนด์อย่าง Toyota, Honda รวมถึงแบรนด์ชั้นนำอื่น ๆ ที่ผ่านการตรวจเช็กระบบยางและเครื่องยนต์อย่างละเอียดทุกคัน ไม่มีประวัติชนหนัก น้ำท่วม หรือพลิกคว่ำ พร้อมใช้งานทันที เลือกได้มากกว่า 300 คัน จากทุกยี่ห้อ ทุกรุ่น พร้อมให้บริการที่โชว์รูมทั้ง 3 สาขา ในกรุงเทพฯ และปทุมธานี

 

• สาขาศรีนครินทร์ โทร. 097-921-9552
• สาขาร่มเกล้า โทร. 095-906-0633
• สาขาลำลูกกา โทร. 092-940-5098

 

ข้อมูลอ้างอิง

1. เช็กด่วน! วิธีสังเกตลมยางอ่อนด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือ. สืบค้นวันที่ 20 พฤษภาคม 2568 จาก https://dunloptire.co.th/17175.html

2. รถยางรั่วขับต่อได้ไหม? เกิดจากอะไร ควรทำอย่างไรดี. สืบค้นวันที่ 20 พฤษภาคม 2568 จาก https://www.bridgestone.co.th/th/tire-clinic/drivers-essential/cause-of-tire-leak

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น และเพื่อให้ท่านได้รับการบริการที่ดีที่สุด กรุณากดยอมรับเพื่อยินยอมให้เราใช้คุกกี้  นโยบายความเป็นส่วนตัว

ยอมรับ