ก่อนตกลงซื้อขายรถมือสอง สิ่งหนึ่งที่ผู้ซื้อควรทำก็คือการเช็กประวัติทะเบียนรถ เพื่อให้มั่นใจว่ารถมือสองที่เราจะซื้อเป็นรถที่ถูกต้องตามกฎหมาย และมีประวัติที่ไม่ด่างพร้อย โดยในบทความนี้เราจะพาคุณไปหาคำตอบกันว่า ทำไมเราถึงควรตรวจสอบประวัติทะเบียนรถก่อนมีการซื้อขาย? และจะสามารถใช้วิธีไหนเพื่อเช็กประวัติรถจากทะเบียนได้บ้าง? ติดตามกันได้เลย

ควรเช็กประวัติทะเบียนรถจากกรณีใดบ้าง?

การตรวจสอบประวัติของรถยนต์นั้นมีประโยชน์ในหลาย ๆ กรณี ไม่ว่าจะเป็น

การตรวจสอบว่าเป็นทะเบียนจริงหรือไม่?

การตรวจสอบทะเบียนรถ ถือเป็นหนึ่งวิธีที่จะช่วยเช็กได้ว่ารถคันนั้น ๆ เป็นรถที่ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ โดยการตรวจสอบทะเบียนรถ หากพบว่าเป็นทะเบียนปลอมที่มีการสวมรอยมา ก็จะช่วยให้เราหลีกเลี่ยงการซื้อรถคันนั้น ๆ เพราะอาจเป็นรถที่ผิดกฎหมาย หรือถูกขโมยมาได้

ช่วยตรวจสอบว่ามีประวัติการชนแล้วหนีหรือไม่?

อีกหนึ่งประโยชน์ของการเช็กเลขทะเบียนรถก็คือ การตรวจสอบว่ารถคันนั้น ๆ มีประวัติไม่ดีอย่างการชนแล้วหนี หรือความผิดอื่น ๆ หรือไม่ เพื่อป้องกันปัญหาและความยุ่งยากที่อาจตามมาในภายหลัง

การตรวจสอบว่าเป็นทะเบียนรถที่ถูกอายัดหรือไม่?

การตรวจสอบทะเบียนรถยนต์ยังจะช่วยให้รู้ว่ารถมือสองที่เรากำลังจะซื้อ เคยถูกอายัดมาและยังมีการค้างชำระค่าปรับจราจร หรือจากสาเหตุป้ายทะเบียนรถยนต์มีสีซีดจางหรือไม่ เพราะอาจทำให้ผู้ซื้อรถไม่สามารถต่อทะเบียนรถยนต์ และต่อภาษีรถประจำปีได้

สามารถเช็กทะเบียนรถออนไลน์ได้หรือไม่?

เมื่อได้รู้แล้วว่าการตรวจสอบประวัติทะเบียนรถนั้นมีประโยชน์อย่างไร สิ่งต่อไปที่หลาย ๆ คนอยากรู้ก็คือ เราจะสามารถเช็กประวัติทะเบียนรถยนต์ผ่านทางออนไลน์ได้หรือไม่ หรือควรใช้วิธีใดในการตรวจสอบ ซึ่งโดยปกติแล้วเราจะไม่สามารถเช็กทะเบียนรถออนไลน์ได้ แต่สามารถขอเช็กประวัติทะเบียนรถได้ที่สำนักงานกรมขนส่งโดยตรงเท่านั้น

ใครสามารถขอตรวจสอบทะเบียนรถได้บ้าง?

• เจ้าของรถที่ต้องการตรวจสอบประวัติทะเบียนรถยนต์ก่อนขายรถมือสอง
• ผู้เสียประโยชน์จากรถคันที่ขอตรวจสอบ เช่น ถูกชนแล้วหนี หรือรถหาย ตำรวจ ศาล ทนายความ หรือบริษัทประกันภัย ที่จำเป็นต้องใช้ข้อมูลไปประกอบการพิจารณาคดี
• สำหรับกรณีอื่น ๆ สามารถติดต่อสอบถามเจ้าหน้าที่สำนักงานขนส่งก่อนได้ว่าสามารถตรวจสอบประวัติทะเบียนได้หรือไม่

เอกสารที่ต้องใช้ และค่าธรรมเนียมในการขอตรวจสอบประวัติรถยนต์ก่อนขายรถมือสอง

ในการขอตรวจสอบทะเบียนรถยนต์ จะมีค่าใช้จ่ายดังนี้

• ค่าคำขอ ฉบับละ 5 บาท
• ค่ารับรองสำเนา แผ่นละ 20 บาท
• ค่าขอค้นเอกสารรถยนต์ ครั้งละ 50 บาท

โดยเจ้าของรถจำเป็นต้องเตรียมเอกสารดังต่อไปนี้

• สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ยื่นคำขอ
• สำเนาใบสำคัญการเปลี่ยนชื่อหากมีการเปลี่ยนชื่อ
• ใบแจ้งความหรือบันทึกประจำวัน ฉบับจริง และสำเนา
• เล่มทะเบียนรถ ฉบับจริง และสำเนา
• เอกสารการซื้อขายรถ ฉบับจริง และสำเนา

สำหรับการขอตรวจสอบทะเบียนรถยนต์ในกรณีที่มีการชนแล้วหนี มีคดีความ และอื่น ๆ จำเป็นต้องเตรียมเอกสารต่าง ๆ เหล่านี้เพิ่มเติม

• หนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล ฉบับจริง และสำเนา (กรณีผู้ยื่นคำขอเป็นตัวแทนของนิติบุคคล)
• สำเนาบัตรประชาชนผู้มีอำนาจลงนามแทนนิติบุคคล
• หนังสือนำส่งเรื่อง หรือเอกสารของเจ้าหน้าที่ของรัฐ หน่วยงานของรัฐ หรือบุคคลที่มีอำนาจตามกฎหมาย กรณีเจ้าหน้าที่ของรัฐ หน่วยงานของรัฐ หรือบุคคลที่มีอำนาจตามกฎหมายเป็นผู้ขอตรวจสอบ
• สำเนาหนังสือแต่งตั้งตัวแทนบริษัทประกันภัย (กรณีมอบให้บริษัทประกันเป็นผู้ตรวจสอบ)
• สำเนาหนังสือแต่งตั้งทนายความ หรือใบอนุญาตทนายความ (กรณีมอบให้ทนายความเป็นผู้ตรวจสอบ)
• สำเนาหมายศาลหรือคำสั่งศาล
• หนังสือการถอนอายัดทะเบียน ฉบับจริง และสำเนา
• หลักฐานการรับรถคืน ฉบับจริง และสำเนา

หากต้องการซื้อรถยนต์มือสอง เลือกศูนย์ขายรถที่การันตีการเช็กประวัติทะเบียนรถที่มีความน่าเชื่อถือ ก็จะอุ่นใจที่สุด สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเข้ามาใช้บริการได้ที่ Autovilla (ออโต้วิลล่า) เรารับซื้อขายรถใน กทม. และปริมณฑล ตรวจสอบรถทุกคันโดยมีอาชีพ พร้อมบริการจัดไฟแนนซ์ครบวงจร หรือหากต้องการขายรถ สามารถให้ข้อมูลรถของคุณกับเราผ่านการกรอกฟอร์มบนเว็บไซต์ แล้วรอเจ้าหน้าที่ติดต่อเพื่อนัดหมายวัน - เวลาสำหรับการตรวจสอบรถยนต์เพื่อประเมินราคาได้เลย

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

สาขาศรีนครินทร์ โทร. 097-921-9552

สาขาร่มเกล้า โทร. 095-906-0633

สาขาลำลูกกา โทร. 092-940-5098

ข้อมูลอ้างอิง:

1. เช็คทะเบียนรถว่าเป็นของใคร รู้ให้ชัวร์ก่อนจะซื้อรถ หรือโดนชนแล้วหนี!. สืบค้นวันที่ 24 มกราคม 2567 จาก https://www.silkspan.com/article/auto/find-owner-car-plate/
2. เพิ่งจะรู้! วิธีเช็กทะเบียนรถว่าใครเป็นเจ้าของ. สืบค้นวันที่ 24 มกราคม 2567 จาก https://www.sanook.com/auto/88715/