12.12.2024

วิธีเช็กยางรถยนต์ พร้อมสัญญาณเตือนเมื่อถึงเวลาต้องเปลี่ยน

ยางรถยนต์ เป็นอุปกรณ์สำคัญที่ช่วยให้รถสามารถขับเคลื่อนไปข้างหน้า และยังทำหน้าที่รับน้ำหนักรถทั้งคันอยู่ตลอดเวลา ดังนั้น การดูแลยางรถยนต์จึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรละเลย เพราะนอกจากจะช่วยยืดอายุการใช้งานแล้ว ยังช่วยสร้างความปลอดภัยให้กับการขับขี่อีกด้วย มาดูกันว่า เราจะมีวิธีเช็กยางรถยนต์ด้วยตัวเองอย่างไร และสภาพยางแบบไหนที่ควรเปลี่ยน

 

ความสำคัญของการเช็กยางรถยนต์

  • ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ โดยเฉพาะในสภาพถนนที่เปียกหรือลื่น
  • ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง เพราะยางที่มีลมไม่พอหรือมากเกินไปจะสิ้นเปลืองน้ำมัน
  • ช่วยให้ระบบช่วงล่างทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ยืดอายุการใช้งานของยาง ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว
  • ป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดจากยางระเบิดหรือยางแตก

 

สภาพยางรถยนต์ที่ควรเปลี่ยน

  • ดอกยางสึกถึงขีดบอกความลึก
  • ยางมีการชำรุดผิดปกติ เช่น มีรอยฉีกขาด มีการแตกร้าว หรือ มีวัตถุแปลกปลอมปักคาอยู่
  • ยางที่มีอายุเกิน 5-6 ปี ควรได้รับการตรวจสอบอย่างละเอียด และ ยางที่มีอายุเกิน 10 ปี ควรเปลี่ยนใหม่ แม้ดอกยางจะยังเหลืออยู่

 

วิธีเช็กยางรถยนต์ด้วยตนเอง


เช็กลมยาง


การตรวจสอบลมยางที่ถูกต้องควรทำเมื่อยางเย็น หรือเมื่อไม่ได้ใช้งานอย่างน้อย 3 ชั่วโมง เพราะการวัดขณะยางร้อน จะทำให้ค่าที่วัดได้ไม่แม่นยำ โดยการเช็กยางรถยนต์ เริ่มจากการเตรียมเกจวัดลมยางที่ได้มาตรฐาน จากนั้นถอดฝาครอบจุกลมยางออก กดเกจให้สนิทกับจุกลม แล้วเทียบค่าแรงดันลมยางที่วัดได้กับค่ามาตรฐานที่ระบุในคู่มือรถ หรือดูจากสติกเกอร์ที่ติดบริเวณเสาประตู ซึ่งจะมีค่ามาตรฐานแยกระหว่างยางหน้าและยางหลัง หากพบว่าลมยางต่ำกว่ามาตรฐาน ให้เติมลมให้ได้ตามค่าที่กำหนด โดยต้องตรวจวัดให้ครบทุกล้อรวมถึงยางอะไหล่ ทั้งนี้ ควรทำการตรวจสอบอย่างน้อยเดือนละครั้ง หรือทุกครั้งก่อนเดินทางไกล

 

การเติมลมยางหลังจากเช็กยางรถยนต์ด้วยตัวเอง

 

เช็กความลึกของดอกยาง


การตรวจสอบความลึกของดอกยางสามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยการใช้เหรียญบาทวัด โดยสังเกตจากตัวระบุความสึกหรอที่อยู่ระหว่างร่องดอกยาง ซึ่งมีความสูงมาตรฐานอยู่ที่ 1.6 มิลลิเมตร ในการวัดควรตรวจสอบพร้อมกันให้ครบทุกจุด ทั้งด้านนอก ตรงกลาง และด้านในของดอกยาง เพื่อดูการสึกหรอที่ไม่เท่ากัน ซึ่งหากพบว่ามีการสึกหรอไม่สม่ำเสมอ อาจเป็นสัญญาณเตือนถึงปัญหาของระบบศูนย์ล้อหรือช่วงล่าง และที่สำคัญ หากพบว่าดอกยางเหลือน้อยกว่า 1.6 มิลลิเมตร ควรรีบเปลี่ยนยางทันทีเพื่อความปลอดภัยในการขับขี่


เช็กสภาพผิวยาง


การตรวจสอบสภาพผิวยาง เป็นอีกหนึ่งวิธีเช็กยางรถยนต์ที่ต้องทำอย่างละเอียด ตั้งแต่การตรวจสอบแก้มยางโดยรอบ เพื่อมองหาความผิดปกติต่าง ๆ เช่น รอยฉีกขาด รอยบาด หรือการบวมปูดนูนที่ผิดปกติ รวมถึงรอยแตกตามแนวยาว นอกจากนี้ ยังต้องสังเกตการเสื่อมสภาพของเนื้อยาง เช่น ยางที่แข็งกรอบ เพื่อให้สามารถเปลี่ยนยางใหม่ได้ทันท่วงที

 

นอกจากสาระดี ๆ เกี่ยวกับวิธีเช็กยางรถยนต์ที่เรานำมาฝากกัน หากใครที่สนใจซื้อรถมือสอง หรือกำลังมองหาที่รับซื้อรถให้ราคาสูง สามารถปรึกษา Autovilla ได้เลย เราคือศูนย์จำหน่ายรถมือสองครบวงจร โดยรถทุกคันผ่านการตรวจประเมินสภาพรถยนต์ถึง 344 จุด จาก Goo Inspection ซึ่งเป็นสถาบันที่ได้รับการรับรองจากประเทศญี่ปุ่น อีกทั้งบริการรับซื้อรถของเรา ยังช่วยให้คุณขายรถได้ง่าย ๆ เพียงกรอกข้อมูลบนหน้าเว็บไซต์ นัดหมายกับเจ้าหน้าที่เพื่อประเมินราคา และรับเงินโอนเข้าบัญชีได้ทันใจ หรือปิดยอดไฟแนนซ์ได้ทันที ในกรณีรถติดไฟแนนซ์

 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

  • สาขาศรีนครินทร์ โทร. 097-921-9552
  • สาขาร่มเกล้า โทร. 095-906-0633
  • สาขาลำลูกกา โทร. 092-940-5098

 

ข้อมูลอ้างอิง
1.วิธีตรวจสอบแรงดันลมยางด้วยตัวเอง. สืบค้นวันที่ 25 พฤศจิกายน 2567 จาก https://www.cockpit.co.th/post/523/วิธีตรวจสอบแรงดันลมยางด้วยตัวเอง

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น และเพื่อให้ท่านได้รับการบริการที่ดีที่สุด กรุณากดยอมรับเพื่อยินยอมให้เราใช้คุกกี้  นโยบายความเป็นส่วนตัว

ยอมรับ