11.08.2024
เบนซิน ดีเซล แก๊สโซฮอล์ : รู้จักน้ำมันเชื้อเพลิงแต่ละประเภท
รู้จักน้ำมันเชื้อเพลิงแต่ละประเภท
น้ำมันเชื้อเพลิงมีอยู่หลายประเภท รถบางรุ่นต้องเติมดีเซล บางรุ่นต้องเติมเบนซิน ทำให้ผู้ที่ขับขี่รถยนต์หลาย ๆ คนอดสงสัยไม่ได้ว่า น้ำมันเชื้อเพลิงแต่ละประเภทแตกต่างกันอย่างไร และควรเลือกเติมแบบไหนดีที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพด้านการขับขี่ บทความนี้มีคำตอบมาให้แล้ว
น้ำมันเชื้อเพลิงแบ่งเป็นกี่ประเภท ?
โดยทั่วไป น้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับรถยนต์สามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ได้แก่
1. น้ำมันเชื้อเพลิงแบบดีเซล
น้ำมันดีเซลเป็นเชื้อเพลิงที่ได้จากการกลั่นน้ำมันดิบ มีความหนืดมากกว่าน้ำมันเบนซิน เหมาะสำหรับเครื่องยนต์ดีเซลที่ใช้การจุดระเบิดด้วยการอัด โดยน้ำมันดีเซลจะมีพลังงานต่อหน่วยในปริมาตรที่สูงกว่าน้ำมันเบนซิน ทำให้ประหยัดเชื้อเพลิงมากกว่า เหมาะสำหรับรถบรรทุก รถโดยสาร และรถยนต์ที่ต้องการแรงบิดสูง
2. น้ำมันเชื้อเพลิงแบบเบนซิน
น้ำมันเบนซินคือเชื้อเพลิงที่ได้จากการกลั่นน้ำมันดิบเช่นกัน แต่มีความหนืดน้อยกว่าน้ำมันดีเซล เหมาะสำหรับเครื่องยนต์เบนซินที่ใช้การจุดระเบิดด้วยหัวเทียน น้ำมันเบนซินมีคุณสมบัติการเผาไหม้ที่รวดเร็วและสะอาดกว่า เหมาะสำหรับรถยนต์นั่งส่วนบุคคลและรถจักรยานยนต์
3. น้ำมันเชื้อเพลิงแบบแก๊สโซฮอล์
น้ำมันแก๊สโซฮอล์คือน้ำมันเชื้อเพลิงที่ผสมระหว่างน้ำมันเบนซินกับเอทานอล ในอัตราส่วนต่าง ๆ เช่น E10 (10% เอทานอล), E20 (20% เอทานอล), และ E85 (85% เอทานอล) โดยแก๊สโซฮอล์นั้นได้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อลดการพึ่งพาน้ำมันปิโตรเลียมและลดมลพิษ เหมาะสำหรับรถยนต์รุ่นใหม่ที่ออกแบบมาให้ใช้ได้กับแก๊สโซฮอล์
รวมน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับรถยนต์ที่พบได้ในปัจจุบัน
- แก๊สโซฮอล์ 91 (Gasohol 91)
แก๊สโซฮอล์ 91 เป็นน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีค่าออกเทน 91 ผสมกับเอทานอล 10% เหมาะสำหรับรถยนต์รุ่นเก่าที่ต้องการค่าออกเทนต่ำ - แก๊สโซฮอล์ 95 (อี 10) (Gasohol 95: E10)
แก๊สโซฮอล์ 95 (E10) เป็นน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีค่าออกเทน 95 ผสมกับเอทานอล 10% เป็นน้ำมันที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในรถยนต์ทั่วไป - แก๊สโซฮอล์ 95 (Gasoline 95)
แก๊สโซฮอล์ 95 คือ น้ำมันเชื้อเพลิงที่ได้จากการนำน้ำมันเบนซินไร้สารตะกั่วผสมกับเอทานอล มีคุณสมบัติคล้ายกับเบนซินออกเทน 95 จึงใช้กับรถที่ต้องการน้ำมันเบนซินได้ - น้ำมันดีเซล (Diesel)
น้ำมันดีเซลเป็นเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องยนต์ดีเซล มีหลายเกรด เช่น ดีเซลธรรมดาและดีเซลพรีเมียม แก๊สโซฮอล์ 95 (อี 20) (Gasohol 95: E20) - น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 (E20)
คือน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีค่าออกเทน 95 ผสมกับเอทานอล 20% เหมาะสำหรับรถยนต์รุ่นใหม่ที่ออกแบบมาให้ใช้ได้กับ E20 - แก๊สโซฮอล์ 95 (อี 85) (Gasohol 95: E85)
แก๊สโซฮอล์ 95 (E85) เป็นน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีค่าออกเทน 95 ผสมกับเอทานอล 85% เหมาะสำหรับรถยนต์ที่ออกแบบมาเฉพาะให้ใช้กับ E85 เท่านั้น
เบนซิน 95 กับ แก๊สโซฮอล์ 95 เหมือนกันไหม ?
เบนซิน 95 และแก๊สโซฮอล์ 95 แม้จะมีค่าออกเทนเท่ากัน แต่มีความแตกต่างที่สำคัญ ดังนี้
- เบนซิน 95 คือน้ำมันเชื้อเพลิงจากปิโตรเลียมล้วน ไม่มีการผสมเอทานอล เหมาะสำหรับรถยนต์ที่ออกแบบมาให้ใช้กับน้ำมันเบนซินโดยเฉพาะ
- แก๊สโซฮอล์ 95 เป็นส่วนผสมของน้ำมันเบนซินกับเอทานอล (โดยทั่วไป 10% เอทานอล) เหมาะสำหรับรถยนต์รุ่นใหม่ที่สามารถใช้น้ำมันผสมเอทานอลได้
ความแตกต่างนี้ส่งผลต่อประสิทธิภาพการเผาไหม้ อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง และผลกระทบต่อเครื่องยนต์ในระยะยาว
การใช้น้ำมันผิดประเภทอันตรายอย่างไร ?
การใช้น้ำมันผิดประเภทอาจก่อให้เกิดอันตรายและความเสียหายหลายประการ ไม่ว่าจะเป็น
- ความเสียหายต่อเครื่องยนต์
การใช้น้ำมันดีเซลในเครื่องยนต์เบนซินอาจทำให้เครื่องยนต์เสียหายอย่างรุนแรง และการใช้น้ำมันที่มีค่าออกเทนต่ำกว่าที่กำหนดอาจทำให้เกิดการน็อกของเครื่องยนต์ ซึ่งอาจทำลายลูกสูบและวาล์วได้ด้วย - ระบบเชื้อเพลิง
การใช้แก๊สโซฮอล์ในรถที่ไม่รองรับอาจทำให้ชิ้นส่วนยางและพลาสติกในระบบเชื้อเพลิงเสื่อมสภาพเร็วขึ้น และอาจเกิดการอุดตันในท่อน้ำมันและหัวฉีด ซึ่งจะส่งผลให้ระบบจ่ายน้ำมันทำงานผิดปกติ - ประสิทธิภาพการทำงาน
การใช้น้ำมันผิดประเภทอาจทำให้เครื่องยนต์สตาร์ตยาก เดินเครื่องไม่เรียบ หรือดับกลางคัน รวมถึงอาจส่งผลให้สิ้นเปลืองน้ำมันมากขึ้น และประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องยนต์ลดลง - การปล่อยมลพิษ
การเผาไหม้ไม่สมบูรณ์จากการใช้น้ำมันผิดประเภท อาจทำให้ปล่อยมลพิษมากขึ้น ส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อม และอาจทำให้ตัวเร่งปฏิกิริยา (catalytic converter) ซึ่งมีหน้าที่ลดมลพิษจากไอเสียได้รับความเสียหาย - ความปลอดภัย
ในกรณีร้ายแรง การใช้น้ำมันผิดประเภทอาจทำให้เครื่องยนต์เสียหายกะทันหันขณะขับขี่ ส่งผลต่อความปลอดภัยบนท้องถนน - ค่าใช้จ่าย
การซ่อมแซมที่เกิดจากการใช้น้ำมันผิดประเภทอาจมีค่าใช้จ่ายสูง เพราะอาจต้องเปลี่ยนอะไหล่หรือชิ้นส่วนที่เสียหาย ทำให้อาจมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าปกติ
การเลือกใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่เหมาะสมกับรถยนต์ไม่เพียงแต่จะช่วยรักษาประสิทธิภาพของเครื่องยนต์เท่านั้น แต่ยังช่วยยืดอายุการใช้งานและประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาวด้วย ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงสุด ควรใช้น้ำมันตามที่ผู้ผลิตรถยนต์แนะนำ แต่หากไม่แน่ใจ ควรปรึกษาช่างผู้เชี่ยวชาญหรือศึกษาคู่มือการใช้รถอย่างละเอียดก็จะดีที่สุด
นอกจากความรู้เรื่องน้ำมันเชื้อเพลิงแล้ว Autovilla ศูนย์รวมรถมือสองหลากหลายรุ่น ยังมีความรู้เรื่องรถให้ติดตามอีกมากมาย พร้อมความรู้ดี ๆ ในเรื่องการเลือกซื้อรถมือสองสภาพดี หรือใครอยากซื้อรถมือสองสามารถมาเลือกซื้อกับเราได้เลย จากทั้ง 3 สาขาของเรา
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
สาขาศรีนครินทร์ โทร. 097-921-9552
สาขาร่มเกล้า โทร. 095-906-0633
สาขาลำลูกกา โทร. 092-940-5098
ข้อมูลอ้างอิง
- Types of Gasoline Explained: Learn the Differences. สืบค้นวันที่ 31 กรกฎาคม 2567 จาก https://www.kbb.com/car-advice/gasoline-guide/